สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ เผยสาเหตุของสมองอักเสบมากที่สุดเกิดจากไวรัส เช่น เริม, ไข้เลือดออก, พิษสุนัขบ้า, คางทูม, หัดเยอรมัน หากไม่รักษาให้ทันท่วงทีอาการอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า สมองอักเสบ คือ โรคที่เกิดจากการอักเสบของเนื้อสมอง สาเหตุที่พบมากที่สุด คือ การติดเชื้อไวรัส ซึ่งเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุการเกิดโรคสมองอักเสบที่พบในประเทศไทยได้แก่ ไวรัสเริม แบ่งได้ 2 ประเภท คือ ไวรัสเริมชนิดที่ 1 ทำให้ผู้ที่ได้รับเชื้อมีไข้ เป็นแผล หรือตุ่มใสบริเวณปาก และไวรัสเริมชนิดที่ 2 ทำให้เกิดแผลเริมบริเวณอวัยวะเพศ
นอกจากนี้ยังมีเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคไข้สมองอักเสบ ได้แก่ ไข้เลือดออก, โรคพิษสุนัขบ้า, โรคคางทูม, โรคหัดเยอรมัน, โรคไวรัสสมองอักเสบเจอี อย่างไรก็ตามโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคสมองอักเสบเช่นกันและปัจจุบันพบมากขึ้น
นายแพทย์อุดม ภู่วโรดม ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยจะมีอาการ คือ มีไข้ ปวดศีรษะร่วมกับมีอาการทางสมองและระบบประสาท คือ สูญเสียการรับรู้เรื่องบุคคล เวลาและสถานที่ มีพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น กระวนกระวาย เห็นภาพหลอน อาจมีอาการอ่อนแรง พูดไม่ชัด ถ้ามีอาการรุนแรงมากอาจจะมีการชัก หมดสติ ไม่รู้สึกตัว เรียกไม่ตื่น และอาจเสียชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงทีอาจเกิดอาการรุนแรง มีภาวะแทรกซ้อนและมีปัญหาต่อเนื่องในระยะยาวได้ เช่น เป็นโรคลมชัก อาการอ่อนแรง พฤติกรรมผิดปกติ เกิดความผิดปกติของเชาว์ปัญญา ซึ่งมีผลกระทบต่อผู้ป่วย ครอบครัว และสังคม
การวินิจฉัยไข้สมองอักเสบจะซักประวัติของผู้ป่วยร่วมกับตรวจร่างกายทางระบบประสาทและสมองอย่างละเอียด แล้วจึงส่งตรวจภาพถ่ายรังสีของสมอง ซึ่งทำได้ 2 วิธี คือ การตรวจซีทีสแกนและการทำเอ็มอาร์ไอ เพื่อตรวจดูว่าผู้ป่วยมีลักษณะสมองอักเสบหรือมีลักษณะโรคทางสมองอื่น ๆ ร่วมกับการเจาะน้ำไขสันหลัง ตรวจหาการติดเชื้อหรือการอักเสบ เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องนำไปสู่การรักษาที่เฉพาะสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายต่อไป
แหล่งที่มาอ้างอิง: ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข